วันแม่นี้ ผมอยากให้แม่มีความสุข ผมจะทำดีเพื่อแม่ แม่คือคนที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต เพราะไม่มีใครที่จะรักผมเท่ากับแม่อีกแล้วครับ แม่ของผมสั่งสอนผมมาตลอดและเลี้ยงดู ผมมาตลอดคอยให้ความรักกับผมมาตลอดผมอยากตอบพระคุณกับแม่แต่ไม่มีโอกาศ เลยสักครั้งผมอยากบอกให้แม่รู้ไว้ว่าผมรักแม่มากที่สุด ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นเด็กดีช่วยพ่อแม่หาเงินไม่ทำให้พอแม่เสียใจครับ ให้กับแม่แม่จะใช้อะไร ผมจะทำให้แม่ไม่บ่นสักคำ ผมอยากจะพาแม่ไปทำบุญเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แม่เคยตีผมร้องให้เพราะอยากให้ผมเป็นคนดี ผมอาจจะเสียใจแต่ส่วนมากผมไม่เสียใจเลยสักนิดเดียว แม่ตีผมเพื่อให้ผมเป็นคนดีแต่ที่ผมเสียใจมากคือการทำให้แม่ของผมร้องให้ ผมไม่อยากทำให้แม่ร้องให้ แต่ที่ผมทำให้แม่ร้องให้ส่วนมากเป็นเพราะเราเป็นเด็กไม่ดีทำให้ แม่ร้องไห้ พอเวลาเราขอเงินแม่ทำให้แม่เป็นคนไม่ดีพอฉันเห็นแม่เสียใจ เราก็เสียใจเมื่อนั้น แม่คือคนสำคัญที่สุดของผม เราควรรักแม่เพราะแม่เป็นผู้มีพระคุณที่สุดของเราแม่เราคือผู้มีพระคุณที่สุด ถ้ามีเวลาเราจะไปทดแทนบุญคุณท่านให้ได้ ณ ตอนนี้ผมอยาก บอกกับแม่ที่น่ารักที่สุดของผมว่า "ผมรักแม่ครับ"
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วันแม่
วันแม่นี้ ผมอยากให้แม่มีความสุข ผมจะทำดีเพื่อแม่ แม่คือคนที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต เพราะไม่มีใครที่จะรักผมเท่ากับแม่อีกแล้วครับ แม่ของผมสั่งสอนผมมาตลอดและเลี้ยงดู ผมมาตลอดคอยให้ความรักกับผมมาตลอดผมอยากตอบพระคุณกับแม่แต่ไม่มีโอกาศ เลยสักครั้งผมอยากบอกให้แม่รู้ไว้ว่าผมรักแม่มากที่สุด ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นเด็กดีช่วยพ่อแม่หาเงินไม่ทำให้พอแม่เสียใจครับ ให้กับแม่แม่จะใช้อะไร ผมจะทำให้แม่ไม่บ่นสักคำ ผมอยากจะพาแม่ไปทำบุญเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แม่เคยตีผมร้องให้เพราะอยากให้ผมเป็นคนดี ผมอาจจะเสียใจแต่ส่วนมากผมไม่เสียใจเลยสักนิดเดียว แม่ตีผมเพื่อให้ผมเป็นคนดีแต่ที่ผมเสียใจมากคือการทำให้แม่ของผมร้องให้ ผมไม่อยากทำให้แม่ร้องให้ แต่ที่ผมทำให้แม่ร้องให้ส่วนมากเป็นเพราะเราเป็นเด็กไม่ดีทำให้ แม่ร้องไห้ พอเวลาเราขอเงินแม่ทำให้แม่เป็นคนไม่ดีพอฉันเห็นแม่เสียใจ เราก็เสียใจเมื่อนั้น แม่คือคนสำคัญที่สุดของผม เราควรรักแม่เพราะแม่เป็นผู้มีพระคุณที่สุดของเราแม่เราคือผู้มีพระคุณที่สุด ถ้ามีเวลาเราจะไปทดแทนบุญคุณท่านให้ได้ ณ ตอนนี้ผมอยาก บอกกับแม่ที่น่ารักที่สุดของผมว่า "ผมรักแม่ครับ"
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
พอเพียง..อยู่อย่าง..เพียงพอ
พอเพียง..อยู่อย่าง..เพียงพอ
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=F2fTkuSMNnI
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชดำริชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่พสกนิกรชาวไทยเมื่อปีพ.ศ ๒๕๑๗ นานกว่า ๒๕ ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้นและสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐทั้งในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อยุคโลกาภิวัฒน์
ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำหลักวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฏี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญาและความรอบคอบเพื่อให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
การดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริพอเพียง
๑. ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการใช้ชีวิต
๒. ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต
๓. ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรง
๔. ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยการขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้มี รายได้เพิ่มพูนขึ้น จนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ
๕. ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลดละสิ่งชั่ว ประพฤติตนตามหลักศาสนา
๒. ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต
๓. ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรง
๔. ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยการขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้มี รายได้เพิ่มพูนขึ้น จนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ
๕. ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลดละสิ่งชั่ว ประพฤติตนตามหลักศาสนา
หากทุกคนรู้จักคิดและเลือกใช้ชีวิตตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง ผมเชื่อว่าทุกๆ คนจะดำรงชีวิตได้อย่างสงบสุข รวมไปถึงประเทศของเราด้วย เพราะประเทศที่ดีต้องเริ่มจากประชากรที่ดี ทุกประเทศที่เจริญและพัฒนาแล้วก็เริ่มจากประชากรในประเทศเหมือนกัน
ผมอยากให้เยาวชนรุ่นใหม่รู้จักนำเอาความรู้ความสามารถที่มี นำมาประยุคต์ใช้กับหลักทฤษฎีแบบเศรษฐกิจพอเพียง หากทุกคนรู้จักคิด รู้จักทำ ผมว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดผลดีกับตัวคุณเองรวมทั้งกับประเทศชาติอย่างแน่นอนครับ
ที่มา: http://www.thaiarcheep.com/เศรษฐกิจพอเพียง-กินอยู่อย่างเพียงพอ.html
วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ (อังกฤษ: software) หรือ ส่วนชุดคำสั่ง [1] หรือบางครั้งมีการสะกดว่า ซอฟท์แวร์ เป็นส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ซอฟต์แวร์นั้นนอกจากจะสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ยังสามารถใช้งานบนเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์อื่น เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือหุ่นยนต์ในโรงงาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ คำว่า "ซอฟต์แวร์" ใช้ครั้งแรกโดย จอห์น ดับเบิลยู. เทอร์กีย์ (John W. Turkey) ในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) โดยแนวคิดของซอฟต์แวร์ปรากฏครั้งแรกในเรียงความของแอลัน ทัวริง บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์กล่าวกันว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชิ้นแรกของโลกเขียนโดยเอดา ไบรอน เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับเครื่องวิเคราะห์ (analytical engine) ของชาร์ลส แบบเบจประเภทของซอฟต์แวร์
การแบ่งประเภทของซอฟต์แวร์แบ่งออกได้เป็นหลายแบบ เช่น
- การแบ่งเชิงเทคนิค อาจแบ่งซอฟต์แวร์เป็น 3 ประเภทหลักคือ
- ซอฟต์แวร์ระบบ (System/Infrastructure software) ใช้ในการทำให้คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ทำงานกับระบบคอมพิวเตอร์ได้ โดยรวมถึงระบบปฏิบัติการ ไดรเวอร์ และระบบหลักของคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ
- โปรแกรมประยุกต์ หรือซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินงานต่าง ๆ โดยทั่วไปเช่น โปรแกรมสำนักงานฐานข้อมูล คอมพิวเตอร์เกม เว็บเบราว์เซอร์ โดยโปรแกรมประยุกต์จะมีจียูไอ
- โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Tools/Utilities) ประกอบไปด้วยเครื่องมือช่วยให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมอื่น ๆ หรือโปรแกรมประยุกต์ได้ เครื่องมือต่าง ๆ ประกอบไปด้วย คอมไพเลอร์ อินเตอร์พรีเตอร์ ดีบักเกอร์
- การแบ่งตามรูปแบบการส่งมอบ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ
- ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป (Package software) ซอฟต์แวร์ที่มีการขาย ให้เช่า หรือให้บริการ โดยคิดค่าบริการเป็น transaction หรือ license
- ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเงินเดือน (Outsources software development) เป็นการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานเฉพาะกับงานประเภทต่าง ๆ เฉพาะกิจกรรมไป ส่วนใหญ่ลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์นี้จะเป็นของผู้ที่ว่าจ้างให้พัฒนาขึ้น
- การแบ่งตามประเภทของการนำไปใช้งานหลัก แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
- ซอฟต์แวร์ช่วยในการบริหารจัดการทั่วไป (Enterprise software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับการทำงานเพื่อแก้ปัญหา/จัดการทรัพยากรของ บุคคล/องค์กร เช่น ซอฟต์แวร์บัญชี ซอฟต์แวร์จัดทำเอกสาร เป็นต้น
- ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก (Mobile applications software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการพิเศษบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือ PDA โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ (1) ซอฟต์แวร์เพื่อสนับสนุนธุรกรรมทางธุรกิจ (Business applications) เช่น Mobile banking, Mobile payment, GPS on Mobile, Mobile applications for business process management และ(2) ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการและบันเทิง (Entertainment applications) ซึ่งรวมเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่
- ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว (Embedded System Software) เป็นซอฟต์แวร์ซึ่งฝังอยู่ไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อใช้สำหรับควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ เช่น ระบบ GPRS ระบบทำความเย็นอัจริยะ ระบบตรวจสอบย้อนกลับ เป็นต้น ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)